เรารู้ว่าเราเชื่อใจใครได้ ตอนที่เขาทำในสิ่งที่พูด รับปากอะไรแล้วทำ หากทำตามที่บอกไม่ได้ ก็จะแจ้งอย่างจริงใจ ไม่สร้างเรื่องโกหกเพื่อให้พ้นตัวไปเท่านั้น เพราะทุกการโกหก ไม่เคยจบลงด้วยการโกหกหนึ่งครั้ง เรามักต้องสร้างเรื่องไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คนฟังเชื่อ จนในที่สุด เราอาจเชื่อว่าเรื่องโกหกของเรา เป็นเรื่องจริงไปด้วยอีกคน
ทุกคนมีสิทธิผิดพลาดกันได้ และคำว่า ผิดพลาด ย่อมปราศจากเจตนา เพราะโดยธรรมชาติของการอยู่ร่วมกันในสังคม ไม่ว่าจะครอบครัวหรือคนในที่ทำงาน เราทุกคนต่างก็พยายาม ทำดีที่สุด ในขณะนั้น ๆ เสมอ แต่อะไรที่มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ ก็จะผิดพลาดได้ ไม่ว่าเราจะตั้งใจเต็มที่ พยายามเต็มที่ หรือระมัดระวังอย่างดีแค่ไหน
การทำลาย ความเชื่อใจ จริง ๆ แล้วจึงเป็นเรื่องที่เกิดได้ยาก เพราะสิ่งที่เราต้องทำก็คือ รักษาคำพูด ยอมรับเมื่อทำผิดทำพลาด และลดโอกาสการทำผิดซ้ำ ๆ
3 สิ่งที่ช่วยให้เราสำรวจตัวเองว่า เราเป็นคนที่เชื่อใจได้ไหม (3𝑪’𝒔 𝒐𝒇 𝑻𝒓𝒖𝒔𝒕)
- 𝑪𝒉𝒂𝒓𝒂𝒄𝒕𝒆𝒓 คุณลักษณะภายในที่มั่นคง
- 𝑪𝒉𝒂𝒓𝒂𝒄𝒕𝒆𝒓 ในที่นี้ คือ การที่เรายึด ในคุณงามความดี และสิ่งนี้เป็นคุณสมบัติแรก ๆ ที่เรามองหาในผู้นำ ที่เราจะเชื่อใจได้ว่า เขาจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือ 𝑫𝒐 𝒕𝒉𝒆 𝒓𝒊𝒈𝒉𝒕 𝒕𝒉𝒊𝒏𝒈𝒔 ไม่ใช่แค่ 𝑫𝒐 𝒕𝒉𝒊𝒏𝒈𝒔 𝒓𝒊𝒈𝒉𝒕. เช่น เวลาเราพูดถึง เปาบุ้นจิ้น สิ่งแรกที่เรานึกถึง คือ ความยุติธรรม เราเชื่อได้เลยว่า ทุกเรื่องที่ถึงมือท่านเปา จะได้รับความยุติธรรม ประเภทไม่สนว่าเป็นลูกท่านหลานใคร หรือแม้จะสำนึกผิด ร้องขอแค่ไหน ท่านเปา จะหยิบยื่นสิ่งที่เป็นธรรมเสมอ
- 𝑪𝒉𝒂𝒓𝒂𝒄𝒕𝒆𝒓 คือ การมีจริยธรรม ยึดมั่นในคุณธรรม ไม่เอาเปรียบ มีเมตตา และทำความดีนั้น ด้วยการกระทำ ไม่ใช่แค่ คำพูด
- 𝑪𝒐𝒏𝒔𝒊𝒔𝒕𝒆𝒏𝒄𝒚 ความสม่ำเสมอ
- ความเชื่อใจ สร้างยาก ทำลายง่าย เพราะมันไม่ได้เกิดจากการทำดีแค่ครั้งเดียว แต่เกิดจากการกระทำที่สม่ำเสมอ จริงใจ และไม่เลือกปฏิบัติตามความใกล้ชิด เขาจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวไปตามสถานการณ์ หรือสายตาของใคร เราจะรับรู้ได้ว่า ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจะเลือกทำแบบนี้ แน่นอน
- 𝑪𝒐𝒏𝒔𝒊𝒔𝒕𝒆𝒏𝒄𝒚 คือ ความสม่ำเสมอที่ไม่เลือกวัน ไม่เลือกคน และไม่ต้องการเสียงปรบมือ แต่ยืนอยู่ได้ด้วยศรัทธาในสิ่งที่ทำ ไม่ได้ทำเพราะมีใครมองอยู่ แต่เพราะ เขาเชื่อในสิ่งที่ทำ และที่สำคัญ เขาเชื่อใจตัวเอง
- 𝑪𝒐𝒎𝒎𝒊𝒕𝒎𝒆𝒏𝒕 ความมุ่งมั่น
- คนทำไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง น่าจะเป็นประโยคยุคนี้ ที่สะท้อนแก่นของ 𝒄𝒐𝒎𝒎𝒊𝒕𝒎𝒆𝒏𝒕 ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้นำโดยตำแหน่ง หรือโดยความสัมพันธ์ ในความเป็นจริง เราทุกคนต่างมีเหตุผลที่จะเลิกอยู่แล้ว แต่คนที่ยังอยู่ด้วยกัน แม้เจอสถานการณ์ยาก ๆ คนที่ยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ แม้ไม่มีใครมอง คนเหล่านั้นต่างหากที่สร้างความเชื่อใจให้เกิดขึ้น
- 𝑪𝒐𝒎𝒎𝒊𝒕𝒎𝒆𝒏𝒕 ไม่ได้วัดที่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนจากความตั้งใจและความซื่อสัตย์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างทางด้วย เพราะบางครั้ง สิ่งที่ทำให้คนอยากเดินไปต่อด้วยกัน ไม่ใช่ปลายทางที่สำเร็จ แต่คือความมั่นใจว่า เขาจะไม่ล้มเลิกไปง่าย ๆ และเราจะไม่ถูกทิ้งไว้กลางทาง
ลองใช้ 3𝑪’𝒔 นี้เป็นกรอบสะท้อนตนเอง หรือชวนทีมสำรวจไปพร้อมกันว่า
- 𝑪𝒉𝒂𝒓𝒂𝒄𝒕𝒆𝒓 ที่เรายึดมั่นคืออะไร และสอดคล้องกับบทบาทที่เราเป็นอยู่หรือไม่
- การกระทำไหนที่สะท้อน 𝑪𝒐𝒎𝒎𝒊𝒕𝒎𝒆𝒏𝒕 ของเราต่อความสัมพันธ์
- และที่สำคัญ เราทำสิ่งเหล่านั้นเพราะเราเชื่อ หรือเพียงเพราะอยากให้ คนอื่นเชื่อใจเรา
ความเชื่อใจ ไม่ใช่สิ่งที่ใครมอบให้เราโดยไม่มีเหตุผล แต่มันคือผลจากการเลือก เลือกที่จะจริงใจในคำพูด สม่ำเสมอในการกระทำ และมั่นคงในสิ่งที่เชื่อ
เราเลือกได้เสมอ
ว่าจะเป็น 𝑻𝒓𝒖𝒔𝒕 𝑩𝒖𝒊𝒍𝒅𝒆𝒓
หรือเป็น 𝑻𝒓𝒖𝒔𝒕 𝑩𝒓𝒆𝒂𝒌𝒆𝒓