เรื่องราวความสำเร็จ จากผลลัพธ์จริง
ประสบการณ์ของผู้เรียนที่เคยเข้าร่วมโปรแกรมอบรมและสามารถพัฒนาทักษะจนประสบความสำเร็จ
"...คลาส HeartFlow Facilitation เหมือนเป็นตัวจุดประกายให้เข้าใจการ FA ที่แม้ตัวไม่อยู่หลังเรียนจบ แต่ความสนใจที่จะเรียนรู้ และฝึกทักษะนี้ต่อ มันค้างอยู่ในใจ โดยมีความรู้ ความเข้าใจ และเทคนิคต่างๆ ลอยอยู่ในสมอง พร้อมให้หยิบจับมาใช้งาน"
อ่านแล้ว เอ…. คิดได้ว่า เหมือนพี่โย สอนยังไง เหมือนไม่ได้สอนเก่งมากๆ ขอคาราวะ
(ปล. เพื่อนๆ ในคลาสเก่งมากๆ ทุกคน) ลงเรียนอย่างเดียวแต่เหมือนได้เรียนหลายคอร์สเลย อารมณ์แบบในหัวมีความรู้จากทุกคนมันเต็มไปหมด ขอบคุณพี่โย Supang YO Chira เพื่อนร่วมคลาสทุกคน และทุกสิ่งที่ทำให้เราได้เจอกัน (^^)
“ขอบคุณความน่ารักและพลังงานดีๆจากพี่โยและเพื่อนๆทุกคนที่ส่งถึงกันค่ะ ….. แวดวงคนรักฟาอ่ะเนอะ …เลยนึกถึงคลาสที่ชื่อยาวที่สุดในประเทศไทยของพี่โย ที่มีโอกาสได้ไปร่วมเป็นรุ่นปฐมฤกษ์ … ดีงามใจฟูจนทำให้อยู่คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้กอดกันกลมแบบในภาพสุดท้าย แล้วยังต่อเนื่องมาเกื้อกูลกันใน Zoom อีก และจะมีอีกๆๆๆ …. ดีจัง♥️"
5 เรื่องที่ผมได้เรียนรู้จากคลาส Heartflow Facilitation : Engage to Inspire ของพี่โย
ผมเองได้ไปอยู่ในคลาสในฐานะผู้ช่วยพี่โย ตลอด 3 วันของหลักสูตรผมว่าผมได้เรียนรู้หลายอย่างเลยแหละ เลยอยากมาเล่าให้ฟังแบบสรุปว่าผมเองได้เรียนรู้อะไรบ้าง ผ่านสายตาของ Observer ที่อยู่วงนอก
.
♥️ 1) Engagement เกิดจากการ Design
.
ผมโชคดีที่ได้รับรู้ Behind the scene ของคลาสเนื่องจากต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียกัน บอกได้เลยว่าพี่โยออกแบบละเอียดทุกเม็ด ละเอียดอ่อนในการเลือก จัดวาง เรียงลำดับ แถมยังมีปรับสดๆ หน้างานอีก เพื่อสร้าง Engagement และความ Flow ของคลาสให้ได้มากที่สุด
.
♥️ 2) พลังงานของเทรนเนอร์ ส่งผ่านไปยังผู้เรียน กลายเป็นพลังงานของคลาส
.
ตัวผมเองเป็นคนฐานหัว เวลาต้องอยู่กับความ Flow บางทีก็เผลอคิดเยอะ ระแวดระวังเยอะ ต้องเตรียมตัวก่อน
.
แต่พี่โยดูชิวมาก ดูผ่อนคลายสบายๆ ทุกอย่างในคลาสอวลไปด้วย Positive Energy และความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งพลังงานตรงนี้ก็ส่งต่อไปที่ผู้เรียน แล้วก็กลายเป็นพลังงานรวมของคลาสในที่สุด
.
♥️ 3) ใจที่นิ่งสงบพร้อมรับทุก Uncertainty คือเรื่องที่ต้องสะสม
.
อีกเรื่องที่ได้สังเกตแล้วทึ่งในตัวพี่โยมากๆ คือความ "สงบนิ่ง"
.
ไม่ว่าใครจะถามอะไร ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคลาสมันจะไปทางไหน พี่โยเอาอยู่หมด แถมเป็นการเอาอยู่แบบ "สงบ นิ่ง สบายๆ"
.
จากที่ได้คุยหลังไมค์กับพี่โย ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของชั่วโมงบิน+ประสบการณ์ ซึ่งทั้งสะสมและสั่งสมจนกลายเป็นความนิ่งที่มาพร้อมความยืดหยุ่นในตัวเอง
.
♥️ 4) การฟังขั้นเทพ + Mindset ของฟา = การ Debrief ขั้นเทพ
.
หนึ่งใน Magic Moment จากคลาสพี่โย คือการ Debrief ขั้นเทพ
.
คือไม่ว่าคนเรียนจะพูดอะไรออกมา พี่โยสามารถ demo สดการ Debrief ได้ทันทีแบบทั้งคม ทั้งครบ โดยไม่มี Dead Air เลย
.
สุดยอดมากกกกกกกก ข้าน้อยขอคารวะ 9 จอก 😄
.
ตรงนี้ผมคิดว่ามาจากทักษะการฟังที่สะสมมา + Mindset ของฟาที่พี่โยมี ทำให้ทักษะการ Debrief ของพี่โยนั้นสุดมาก
.
♥️ 5) ทุกอย่างไม่ใช่เพื่อเรา แต่เพื่อผู้มาเรียนรู้
.
พี่โยจะย้ำเสมอว่าสิ่งที่เลือกทำ หรือเลือกจะไม่ทำ ก็เพื่อผู้เรียน ไม่ใช่เพื่อตัววิทยากร
.
เพราะคนเป็นฟา ต้อง Serve คนในคลาสเป็นหลัก เพราะฉะนั้นจะเกิดอะไรขึ้นจะผิดจะถูก จะดีจะไม่ดี การตัดสินใจสุดท้ายจะมุ่งไปที่การเรียนรู้ของผู้เรียนและคลาสเสมอ
อย่าลังเลนะ ของเค้าดีจริง
"...ที่มาของการสมัครเรียนคลาสนี้คือได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ของเหมียวหลายท่าน ว่าเป็นคลาสที่เหมาะกับเหมียวมากๆ เหมียวจะได้ใช้ประโยชน์ไปตลอดชีวิตการทำงาน รวมถึงเอาไปปรับใช้กับชีวิตส่วนตัวได้อย่างมหาศาลแน่นอน ... เชียร์กันขนาดนี้ ก็สมัครเลยสิคะ♥️
เป็นคลาสที่ Full of Positive Vibes & Energy มากๆทั้งจากอาจารย์โยและจากเพื่อนๆร่วมคลาส เป็นคลาสที่ปลอดภัยมาก มีความสุขมาก ได้รับทั้งพลังงานดีๆ กำลังใจ และแรงบันดาลใจอย่างท่วมท้น นับเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของเหมียวจริงๆค่ะ♥️
ในคลาสนี้อาจารย์โยได้ใช้ใจนำ แสดงคุณสมบัติที่ดีของ Faciliator อย่างครบถ้วน พร้อมแนะนำเทคนิคดีๆให้พวกเราได้ไอเดียไปปรับใช้ใน Workshop ของตัวเอง ขอยกให้อาจารย์โยเป็นสุดยอด Fa สายใจที่เหมียวนับเป็น idol ให้ไปด้วยเลยค่ะ♥️"
“…การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่มนแบบที่เป็นตัวเขาเองจึงสำคัญมาก
พี่โยทำได้ไงไม่รู้ โดยที่แทบไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ทุกคนที่เข้าเรียนจบออกมาพร้อมกับ ”คุณสมบัติ“ ของ Facilitator ที่ดีมาในแนวทางเดียวกันหมด โดยยังรักษาความมีเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้อยู่
ทำได้ไงวะ? (ขออภัยที่คิดในใจดังมาก ฮ่าๆ)
กระบวนการว่าทำอย่างไร เล่นเกมอะไร debrief ด้วยคำถามอะไร นั้นอ่านเอาเองก็ได้ ข้อมูลมีเยอะแยะ
แต่ถ้าจะฝึก ”Being" ของ Facilitator จะมีดีไปกว่าการไปซึมซับจาก "ตัวจริง“ ล่ะครับ
"...3 วันของการอบรมคอร์ส Heartflow Facilitation : Engage to Inspire ของ อาจารย์โย มีความรู้สึกเหมือนกบถูกต้ม แต่น้ำนั้นกลับเป็นน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ และไม่ได้ถูกต้มจนเดือด แต่กลับหยุดความร้อนไว้ที่อุณหภูมิซึ่งอุ่นพอดีแบบพอเหมาะพอเจาะ เมื่อเวลาผ่านไปและเริ่มปรับตัวได้กลับกลายเป็นความรู้สึกสดชื่น เพลินเพลิน อบอุ่น ดีต่อกายและใจอย่างที่สุด
เป็นการเรียนรู้ที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่กระโชกโฮกฮาก ไม่คะยั้นคะยอ แต่น่าติดตามและมีพลังอย่างสมดุล รู้ตัวอีกทีก็ตอนจบการอบรมที่เราได้ซึมซับแก่นแท้ของการเป็น Fa อย่างลึกซึ้ง
มากไปกว่านั้นคือความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและอบอุ่นจากเพื่อนร่วมคลาสที่จะคอยช่วยสนับสนุนกันต่อไปหลังจากนี้ ทั้งหมดเกิดจากการจัดกระบวนการอันลุ่มลึกของอาจารย์โยนั่นเอง…”
“♥️การเข้าคอร์สอบรมครั้งแรกๆที่ได้ยิ้มได้หัวเราะร่วมไปกับเพื่อนๆร่วมคลาสทุกคนทั้งที่หลายคนเพิ่งเจอกันครั้งแรก
♥️ลงทะเบียนเรียนเพราะชื่อคลาสและความสนใจในอาจารย์โยผู้สอนที่เคยพบเพียงครั้งเดียวแต่ดูเป็นคนมี empathy ที่สุด
♥️ความคาดหวังที่อยากเติมศาสตร์การ Facilitate class ด้วยหัวใจเพื่อปรับสไตล์การสอนของเราให้ดีต่อผู้เข้าอบรมยิ่งๆขึ้นไปอีกถูกเติมเต็มจนล้น ขอยกหลักสูตรนี้เป็น Fa ขั้นเทพสำหรับตัวเอง ณ เวลานี้
♥️มุ่งมั่น (แต่ไม่คาดคั้น) ที่จะนำสิ่งที่เก็บเกี่ยวได้จากคลาสนี้ไปใช้ในการสอนและสร้างคลาสให้อวลไปด้วยความวางใจ ความเห็นอกเห็นใจผู้เรียนจนนำไปสู่มิตรภาพที่แสนดี ณ จุดที่ connect ทุกคนเข้าด้วยกันแบบที่ทุกคนไม่ทันรู้ตัว
♥️run class แบบ Facilitative Trainer เรียนอะไรก็เป็นสุขเก็บเกี่ยวความรู้ไปได้หมดแน่นอน
เทพมากค่ะอ.โย ขอคารวะ 🙏
สุดมากค่ะเพื่อนร่วมรุ่น 1 ของฉัน รักทุกคน"
"อยากบอกว่า…
รู้สึกสนุกและมีความสุขทุกครั้ง ที่ได้ไปเข้าคลาสอบรม เพราะนอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้เพื่อนใหม่ ได้มิตรภาพดีๆ ช่างอิ่มเอมใจจริงๆ เสมือนได้ชาร์จพลังให้ตัวเอง
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน 3 วัน กับหลักสูตร Heartflow Facilitation ได้เจอเพื่อนร่วมคลาสที่น่ารักสุดๆช่วยกัน feedback หลังทดลองสอนคนละ 20 นาที เพื่อจะได้นำไปพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น
ที่สำคัญ อ.โย ผู้สอนหลักสูตรนี้มีเทคนิคการ FA สมชื่อหลักสูตรมากกกกกกค่า ใส่ใจผู้เรียนสุดๆ ไม่ทิ้งผู้เรียนแม้แต่คนเดียว ทำให้ผู้เรียนรู้สึกปลอดภัย แถมให้เทคนิคปิดจบคลาสได้อย่างสวยงาม เพื่อให้ผู้เรียนจดจำหลังออกจากห้อง"
“ปีที่แล้วพบ อ.โยครั้งแรกงาน Give and take Regular พาฝึกสติให้อยู่กับปัจจุบัน จำประโยคนึงได้ เขาจากเราไปแล้วมีแต่เรานี่แระ ที่พาเขากลับมาในใจเรื่อยๆ (เออ จริง)
ปีที่แล้ว เจอคลาสห้องติดกัน เสียงหัวเราะจากผู้เรียนห้องข้างๆ ที่ อ.โยสอนสื่อถึงความสุขของผู้เรียนมากมายพี่เขาสอนยังไงนะ
อ.โยเปิดคลาสสอน ขอโอกาสไปเรียนได้ตกผลึกหลายอย่าง วิธีการเป็น Fa ที่เราจะไม่ทิ้งสิ่งที่ผู้เรียนทำมาให้เชื่อมต่อกับสิ่งที่เราสอน
เป็นคลาสที่ได้ฝึก ได้สนุก ได้ความรู้ที่สำคัญได้ตกผลึกหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิต เราอยากทำอะไรก่อนจากไปอะไรคือสิ่งสำคัญของชีวิต
บางครั้งเราก็ไขว่ขว้าอะไรมาก จนลืมว่า แท้จริงแล้ว ชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่
ขอบคุณผู้ร่วมคลาส ที่ได้รู้จักกันทุกท่านทำให้รู้ว่า การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด"
"…รู้สึกตัวเองโชคดีมากที่ได้มีโอกาสมาเรียนคลาสนี้ อาจารย์ทำให้เราเห็นถึงการเป็นนักกระบวนกร คือเป็นผู้นำกระบวนการการเรียนรู้สู่นักเรียนในคลาสของเราเอง และที่สำคัญที่สุด คือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคนได้กล้าที่จะเปิดใจ แสดงความคิดเห็นและเรียนรู้สิ่งใหม่ร่วมกัน ด้วยใจที่เปิดรับกันจริงๆแบบไม่มีอคติ ไม่ตัดสินกัน
ต้องบอกก่อนว่า 1 ปีที่ลี่ได้ทำหน้าผู้ช่วยวิทยากรมานี้ อาจารย์โยเป็นวิทยากรท่านแรกที่ทำให้ลี่ค้นพบรูปแบบการสอนที่ดีต่อใจของเราจริงๆ และเป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้เราเชื่อว่า เราสามารถทำเป้าหมายของเราให้สำเร็จได้ (การได้นำความรู้ทางจิตวิทยาไปช่วยเติมเต็มศักยภาพและเยียวยาผู้คน) และเราจะเป็นนักกระบวนกรที่ดีได้ในวันนึงค่ะ…"
ตอนที่ไปนั่งเรียนในคลาส Heartflow Facilitation: Engage to Inspire รุ่น3 ของพี่โย Supang YO Chira ทุกอย่างเป็นของใหม่สำหรับผมทุกอย่าง เพราะไม่เคยมีความรู้เรื่องการฟา เลยแม้แต่นิดเดียว
ระหว่าง 3 วันที่ได้เรียนรู้กับเพื่อนๆอีกกว่า 10 คน มันมีหลายๆอย่างที่ พี่โย พูด/บรรยาย/ถ่ายทอด แล้วทำให้เกิดอาการปิ๊งแวบเข้ามา ทั้งที่รู้สึกว่า เออ! ใช่เราเคยเป็นแบบนี้ หรือตบเข่าตัวเองดังๆ ด้วยความสะใจ กับปัญหาที่ค้างมานาน แล้วมาได้คำตอบในคลาสนี้
นึกเร็วๆ กับสิ่งที่ได้ในคลาส ประโยคที่พี่โยบอกว่า อย่าไปตัดสินผู้เรียน ให้อยู่กับเขา แต่ไม่ต้องตัดสินถูก ผิด เพราะเราไม่มีทางรู้ว่า เขาเจออะไรมาบ้าง มีเงื่อนไขชีวิตอะไรบ้าง แค่อยู่กับปัจจุบันแล้วพาเขาไปในจุดที่สามารถเรียนรู้ด้วยกันได้
หรือจะเป็นการ debrief ในแต่ละกิจกรรมที่มีความสำคัญมากๆ แต่บางครั้งบรรยากาศในห้อง อาจจะไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่เราคาดไว้แต่แรก แต่พี่โย ก็ย้ำกับเราว่า เราสามารถ debrief โดยดึงกลับมาให้เข้ากับหัวข้อที่เรามีอยู่ได้ เพียงแต่ต้องมีสติและ “นิ่ง” พอที่จะลงมือทำมันให้ได้
จริงๆแล้ว การเรียนรู้มันไม่ได้จบลงใน 3 วัน แต่มีการเรียนรู้ร่วมกันตามมาอีกเยอะมาก ทั้งกิจกรรมร่วมกัน หรือจะไปคุยกันนอกรอบก็ทำได้ อันนี้มีประโยชน์มาก เพราะหูตาเราจะกว้างไกลมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เพราะเพื่อนๆอีกหลายสิบคน มีมุมมองและโลกที่กว้างกว่าเราคนเดียวแน่ๆ
ก่อนหน้านี้เคยเขียนลง FB ว่า การออกจากสังคมเดิมๆที่เราเคยอยู่ มาหาพื้นที่ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ คือ ทางเลือกที่ดีในยุคที่ความไม่แน่นอนมันเยอะจนน่ากลัว และคลาสของพี่โย Heartflow Facilitation: Engage to Inspire ก็เป็น 1 ในทางเลือกที่ส่วนตัวมองว่า มีคุณค่าและอยากแนะนำเพื่อนๆครับ
ก้าวไปพร้อมกับเราเพื่อการพัฒนาองค์กรด้วยความรู้
คุณพร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจของคุณไปสู่ระดับต่อไป แต่กำลังรู้สึกติดขัดและไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรใช่ไหม? อาจารย์โยพร้อมช่วยคุณวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจอย่างเป็นระบบ วางเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง และออกแบบแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน เพื่อให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน